วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ลักษณะรูปร่างของปลากัด

ลักษณะรูปร่างของปลากัด           
                 ปลากัดจัดเป็นปลาขนาดเล็ก     ลำตัวมีความยาวประมาณ  5 - 7  เซนติเมตร   ลักษณะลำตัวเรียวยาว   แบนข้าง   ปากมีขนาดเล็กเชิดขึ้นด้านบนเล็กน้อย   ส่วนหัวมีเกล็ดปกคลุม   ครีบก้นมีฐานครีบค่อนข้างยาว   มีจำนวนก้านครีบ  23 - 26 อัน   ครีบท้องเล็กยาว   สีของลำตัวเป็นสีเทาแกมดำ   สีของครีบและเกล็ดบริเวณใกล้ครีบจะเป็นสีสดเข้มสีใดสีหนึ่งทั้งตัว   เช่น  ปลากัดสีแดง   จะมีครีบทุกครีบและเกล็ดที่อยู่ใกล้ครีบเป็นสีแดงทั้งหมด
.
ภาพที่ 5  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัด
.
4 ลักษณะพันธุ์ของปลากัด        
                ปลากัดที่มีเพาะเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบัน   มีหลายสายพันธุ์ดังนี้
                4.1 ปลากัดลูกหม้อ   มีลักษณะลำตัวค่อนข้างหนาเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น   ส่วนหัวค่อนข้างโต   ปากใหญ่  ครีบสั้นสีเข้ม   เดิมมักจะเป็นสีเขียว   หรือสีน้ำเงินแกมแดง   แต่ปัจจุบันมีหลายสี   เช่นสีแดง   สีน้ำเงิน   สีม่วง   สีเขียว  และสีนาก   เป็นชนิดที่มีความอดทน   กัดเก่ง   ได้รับความนิยมสำหรับการกัดพนัน ปัจจุบันนิยมเรียกเป็นกลุ่มของ ปลากัดครีบสั้น
.
   
ภาพที่ 6  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดลูกหม้อ
.
                  4.2 ปลากัดลูกทุ่ง   มีลักษณะลำตัวเล็กกว่าพันธุ์ลูกหม้อ   ลำตัวค่อนข้างยาว   ครีบยาวปานกลางหรือยาวกว่าพันธุ์ลูกหม้อเล็กน้อย   สีไม่เข้มมากนัก   ส่วนมากมักจะเป็นสีแดงแกมเขียว   เป็นพันธุ์ที่มีความตื่นตกใจได้ง่ายที่สุด   การกัดจะมีความว่องไวมากกว่าพันธุ์ลูกหม้อ   ปากคม   แต่ไม่ค่อยมีความอดทน   ใช้เวลาประมาณ  30  นาทีจะรู้ผลแพ้ชนะ  นิยมใช้ในวงการกัดพนันเช่นกัน
.
       
ภาพที่ 7  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดลูกทุ่ง 
.
                  4.3 ปลากัดลูกผสม   หรือพันธุ์สังกะสี   หรือพันธุ์ลูกตะกั่ว   ป็นลูกปลาที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างปลากัดลูกหม้อกับปลากัดลูกทุ่ง   โดยอาจผสมระหว่างพ่อเป็นปลาลูกหม้อกับแม่เป็นปลาลูกทุ่ง   หรือพ่อเป็นปลาลูกทุ่งกับแม่เป็นปลาลูกหม้อ   ได้ทั้งสองแบบ   ผู้เพาะต้องการให้ปลาลูกผสมที่ได้มีลักษณะปากคม   กัดคล่องแคล่วว่องไวแบบปลาลูกทุ่ง   และมีความอดทนแบบปลาลูกหม้อ โดยพยายามคัดปลาที่มีลักษณะลำตัวเป็นปลาลูกทุ่ง เพราะเมื่อนำไปกัดกับปลาลูกทุ่งแท้ ๆ ปลาลูกผสมนี้จะกัดทนกว่าปลาลูกทุ่ง  
                 4.4 ปลากัดจีน   เป็นปลากัดที่เกิดจากการเพาะและคัดพันธุ์ปลากัดโดยเน้นเพื่อความสวยงาม   พยายามคัดพันธุ์เพื่อให้ปลามีหางยาวและสีสันสดเข้ม   จนในปัจจุบันสามารถผลิตปลากัดจีนที่มีความสวยงามอย่างมาก   มีครีบต่างๆค่อนข้างยาว   โดยเฉพาะครีบหางจะยาวมากเป็นพิเศษและมีรูปทรงหลายแบบ   มีสีสันสดสวยมากมายหลายสี   เป็นปลาที่ไม่ค่อยตื่นตกใจเช่นเดียวกับปลาหม้อ   แต่ไม่มีความอดทน   เมื่อปล่อยกัดกันมักรู้ผลแพ้ชนะภายใน  10  นาที   ไม่นิยมใช้ในการกัดพนัน ปัจจุบันนิยมเรียกเป็นกลุ่มของ ปลากัดครีบยาว
.
 
ภาพที่ 8  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดจีน  
.
               ปัจจุบันผู้เพาะพันธุ์ปลากัดสามารถเพาะพันธุ์ปลากัดสายพันธุ์ใหม่ๆออกมาอีกหลายสายพันธุ์  และมีความหลากหลายทางด้านสีสันอีกด้วย  ทำให้มีการเรียกชื่อสายพันธุ์ปลากัดเพิ่มขึ้นอีกมากมาย  ได้แก่  ปลากัดครีบสั้น(ปลากัดหม้อ)สีเดียว  ปลากัดครีบยาว(ปลากัดจีน)สีแฟนซี  ปลากัดสองหาง (Double Tail)   ปลากัดหางหนามมงกุฎ (Crown Tail)  ปลากัดหางพระจันทร์ (Halfmoon) เป็นต้น
    
ภาพที่ 9  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดครีบสั้นสีเดียว
.
    
ภาพที่ 10  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดครีบยาวสีแฟนซี
                                              ที่มา : สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงามและสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ 2544  
.
  
ภาพที่ 11  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดสองหาง (Double Tail)
.
 
ภาพที่ 12  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดหางหนามมงกุฏ (Crown Tail)
.
 
ภาพที่ 13  แสดงลักษณะรูปร่างของปลากัดหางพระจันทร์ (Halfmoon)
5 การจำแนกเพศปลากัด        
                ปลากัดเพศผู้และเพศเมียมีลักษณะภายนอกที่แสดงความแตกต่างกัน   ซึ่งพอจะสังเกต
ได้หลายประการ  คือ
                5.1 สีของลำตัว   ปลาเพศผู้จะมีสีของลำตัวและครีบ   เข้มและสดกว่าปลาเพศเมียอย่างชัดเจน   เมื่อปลามีอายุตั้งแต่  2  เดือน  หรือมีขนาดตั้งแต่  3  เซนติเมตรขึ้นไป
                5.2 ขนาดของตัว   ปลาที่เลี้ยงในครอกเดียวกันปลาเพศผู้จะเจริญเติบโตเร็วกว่าปลาเพศเมีย
                5.3 ความยาวครีบ   ปลาเพศผู้จะมีครีบหลัง   ครีบหาง   และครีบก้นยาวกว่าของปลาเพศเมียมาก   ยกเว้นปลากัดหม้อจะยาวต่างกันไม่มากนัก
                5.4 เม็ดไข่นำ  ปลาเพศเมียจะมีเม็ดหรือจุดขาวๆอยู่  1  จุด   ใกล้ๆกับช่องเปิดของช่องเพศ   ลักษณะคล้ายกับไข่ของปลากัดเอง   เรียกจุดนี้ว่าไข่นำ   ส่วนปลาเพศผู้ไม่มี   
.
  
ภาพที่ 14  แสดงความแตกต่างระหว่างเพศผู้(ซ้าย)และเพศเมีย(ขวา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น